Wednesday, September 19, 2007

บทความ โดย K.ลูกอีสาน

1.การลงทุนในหุ้นไม่มีทางลัด

หากนักลงทุนต้องการผลลัพธ์การลงทุนที่ดีการลงทุนศึกษาหาความรู้ติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐาน
ของกิจการเป็นสิ่งจำเป็นนักลงทุนที่ทำมากกว่าย่อมมีแนวโน้มที่จะทำให้ดีกว่าคนที่ทำน้อย
หากเปรียบเทียบผลลัพธ์
กับความพยายามในแง่ความคุ้มค่าชีวิตคนๆหนึ่งอาจใช้เวลาในการศึกษาเล่าเรียน
ศาสตร์ต่างๆเกือบ20ปีและสำเร็จ
ออกมาเพียงเพื่อเป็นมนุษย์เงินเดือนซึ่งมีโอกาสน้อยที่จะบรรลุอิสรภาพ
ทางการเงินและเวลาที่จะทำสิ่งที่อยากจะทำ
มีกำลังที่จะช่วยเหลือสังคมการมุ่งเน้นศึกษาการลงทุนในหุ้น
ตามแนวทางเน้นมูลค่าเพียงระยะเวลาไม่นานและสละเวลา
ติดตามข่าวสารความก้าวหน้าของกิจการบ้าง
อาจจะเปลี่ยนชีวิตคนทั้งชีวิต

2.ตัดสินใจซื้อและขายหุ้นบนพื้นฐานของกิจการ

การลงทุนซื้อหรือขายหุ้นทุกครั้งนักลงทุนควรพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของกิจการเพราะหุ้นคือส่วนหนึ่งของเจ้าของ
กิจการ การวิเคราะห์หุ้นก็คือการวิเคราะห์กิจการนั่นเอง


3.สิ่งที่ยากที่สุดในการลงทุนระยะยาวในหุ้น

คือการพยายามเป็นนักลงทุนที่ใช้เหตุผลในสภาวะที่ไม่มีใครมองหาเหตุผลความสามารถในการมองเห็นกระแส
โดยที่ตัวนักลงทุนเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระแสนั้นสิ่งที่นักลงทุนควรเข้าใจคือเมื่อมนุษย์มาอยู่รวมกันจะเกิด
พฤติกรรมเลียนแบบคล้ายๆกันเกิดเป็นพฤติกรรมหมู่หากเกิดมากๆเรียกว่ากระแสซึ่งบ่อยครั้งพฤติกรรมเหล่านี้จะออก
ห่างจากความมีเหตุมีผลมากขึ้นทุกทีๆนักลงทุนที่ใช้เหตุผลควรเพิกเฉยและมองหาประโยชน์จากกระแสนั้นๆการ
ประสบความสำเร็จในการลงทุนระยะยาวนั้นต้องอาศัยทั้งปัญญาและสติการขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะทำให้การลงทุน
ไปไม่ถึงฝั่ง


4.การลงทุนอย่างมีความสุข

คือการหาจุดสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงการมุ่งเน้นผลตอบแทนมากเกินไปอาจจะทำให้การลงทุน
ประสบหายนะในขณะที่การเน้นปกป้องความเสี่ยงมากเกินไปจะทำให้การลงทุนไม่อาจสร้างความแตกต่าง เสมือนเรือที่ลอยนิ่งอยู่กลางน้ำ


5.รู้จักตัวเองและลงทุนให้เหมาะกับสภาพของตัวเอง

นักลงทุนแต่ละคนย่อมแตกต่างกันทั้งในด้านทัศนะคติอุปนิสัยใจคอความสามารถในการรับความเสี่ยงจำนวน
เงินทุนดังนั้นการรู้ตัวเองเข้าใจตัวเองและนำจุดแข็งมาใช้ประโยชน์ในการลงทุนจะดีกว่าการพยายามเลียนแบบ
การลงทุนตามนักลงทุนคนอื่นๆซึ่งมีสภาพที่แตกต่างออกไปตัวอย่างเช่นนักลงทุนที่เน้นความปลอดภัยของเงิน
ต้นย่อมรับความเสี่ยงได้น้อยกว่าการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่และมั่นคงจะเป็นทางเลือกต้นๆในขณะที่นักลงทุน
ที่มีเงินลงทุนไม่มากสามารถลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่มีขนาดเล็กในขณะที่นักลงทุนที่มีเงินทุนสูงไม่สามารถลงทุนได้


6.แรงผลักดันราคาหุ้น

ประการแรกคือโดยปัจจัยพื้นฐานความก้าวหน้าของกิจการประการที่สองคือแรงผลักดันจากปัจจัยทางด้านอารมณ์
ของนักลงทุนในตลาดการเข้าใจแรงผลักดันประเด็นแรกเพียงพอที่จะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จแต่การเข้าใจ
ทั้งสองประเด็นจะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จยิ่งกว่า


7.หุ้นของทุกๆกิจการมีมูลค่าที่ควรจะเป็น

นักลงทุนสามารถทำกำไรได้หากซื้อหุ้นได้ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็นหุ้นที่แม้จะมีความสามารถในการ
แข่งขันที่โดดเด่นมีการเติบโตของผลกำไรสูงหากนักลงทุนเข้าซื้อที่ราคาแพงเกินไปการลงทุนนั้นอาจจะไม่ทำ
กำไรแย่กว่านั้นอาจจะขาดทุนในขณะที่หุ้นที่อาจจะมีพื้นฐานด้อยกว่าหากซื้อในราคาที่ต่ำมีส่วนเผื่อเพื่อความ
ปลอดภัยเพียงพอการลงทุนนั้นก็สามารถสร้างกำไรได้พูดได้ว่าผลลัพธ์การลงทุนขึ้นอยู่กับราคาที่เราจ่าย
เปรียบเทียบกับคุณภาพของกิจกาที่นักลงทุนได้รับ


8.หุ้นที่ชนะในระยะยาวคือหุ้นของกิจการที่มีอัตราการเติบโตสูง

และกิจการต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่โดดเด่นการขาดอย่างใดอย่างหนึ่งจะทำให้ธุรกิจหรือราคาหุ้นไป
ได้ไม่ไกลธุรกิจที่โดดเด่นมักจะขายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ลูกค้าต้องใช้ซ้ำๆสามารถขยายฐานลูกค้าออกไปได้
ในขณะที่ลูกค้าเดิมยังคงอยู่และคู่แข่งไม่สามารถเข้ามาแข่งขันหรือเข้ามาได้ยากหากนักลงทุนสามารถซื้อหุ้น
กิจการเหล่านี้ได้ในราคาถูกหรือราคาสมเหตุสมผลและถือไว้ในระยะยาวการลงทุนเช่นนี้จะสร้างผลตอบแทนที่ดีเลิศ


9.ตลาดมีประสิทธิภาพเมื่อมองในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น

เมื่่่อมีข้อมูลข่าวสารเข้ามาในตลาดราคาหุ้นจะตอบสนองต่อข่าวหรือข้อมูลนั้นๆทั้งในทางบวกและทางลบแต่บ่อย
ครั้งที่ราคาหุ้นมักสะท้อนข่าวสารในระดับหนึ่งและผลกระทบนั้นจะค่อยๆลดลงเมื่อเวลาผ่านไปทั้งที่ข่าวสารบางอย่าง
อาจจะสร้างผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อพื้นฐานกิจการในอนาคตดังนั้นเป็นโอกาสของนักลงทุนที่มองในระยะยาวกว่า
จะเข้าไปหาประโยชน์จากการมองสั้นๆของตลาดทั้งในทางซื้อและทางขายการอดทนมากกว่าเพียงเล็กน้อยอาจสร้าง
ผลลัพธ์การลงทุนที่แตกต่างได้อย่างมาก


10.จังหวะในการซื้อหุ้นที่ดีที่สุดคือตอนที่มีข่าวร้ายมากที่สุด

ทั้งที่พื้นฐานของธุรกิจไม่ได้เปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนทั่วไปมีแนวโน้มจะขายหุ้นเมื่อราคาลดลงและเข้าซื้อหุ้น
เมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเพราะนั่นทำให้นักลงทุนสบายใจมากกว่าหากซื้อหุ้นแล้วราคาลดลงนักลงทุนจะรู้สึกผิดและสงสัยว่าทำไม
ตลาดหรือนักลงทุนคนอื่นๆไม่
คิดอย่างนั้นด้วยความไม่แน่ใจนี้นักลงทุนจะมีข้ออ้างต่างๆในการขายหุ้นออกไปเช่นว่าหุ้นดีทำไม
ราคาลงมีข่าวร้ายอะไรที่นักลงทุนยังไม่รู้หรือ
เปล่าขายไปก่อนแล้วรอรับกลับที่ราคาต่ำกว่าหรือคำกล่าวที่ว่าถูกแล้วยังมีถูกอีก
และในทางตรงกันข้ามเมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้นนักลงทุนจะ
กระตือรือร้นที่จะซื้อหุ้นด้วยข้ออ้างที่คล้ายคลึงกันเช่นหุ้นน่าจะดีเพราะ
ไม่ดีราคาคงไม่ขึ้นมีข่าวดีๆอะไรที่นักลงทุนยังไม่รู้หรือเปล่าด้วยเหตุผลเหล่านี้หุ้นที่ราคาสูงขึ้นจะสูงขึ้นอีกยิ่งซื้อราคาก็ยิ่งเพิ่ม
สูงขึ้นยิ่งทำให้นักลงทุนสบายใจเพราะเข้าใจว่าการลงทุนนั้นถูกตัดสินจากตลาดว่าถูกต้องแนวโน้มที่นักลงทุนทำการขายเมื่อ
ราคาหุ้นถูกซื้อเมื่อราคาหุ้นแพงอย่างนี้จะทำให้การลงทุนล้มเหลวหรือไปได้ไม่ไกลนักลงทุนที่ดีควรทำในทางตรงกันข้ามโดย
ตัดสินใจซื้อและขายบนพื้นฐานของกิจการหลีกเลี่ยงไม่ให้อารมณ์ของตลาดเข้ามามีผลข้อควรระวังของประเด็นนี้คือการซื้อหุ้น
เพียงเพราะเห็นว่าราคาลดลงโดยไม่ได้ตรวจสอบดูว่าพื้นฐานของกิจการมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่าจะเป็นอันตรายต่อการ
ลงทุนพอๆกัน

11.มองภาพใหญ่ อย่าใส่ใจภาพเล็ก

กิจการทุกกิจการย่อมมีข้อดีข้อเด่นข้อด้อยแตกต่างกันไปไม่มีกิจการใดที่ดีพร้อมหรือแย่ไปหมดทุกอย่างนักลงทุนควรจะ
เลือกกิจการที่มีข้อเสียน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับราคาการให้ความสำคัญมากเกินไปกับข้อเสียเล็กๆน้อยๆที่ไม่ได้มีนัยยะ
สำคัญอะไร ทำให้นักลงทุนหลายๆคนพลาด ปล่อยโอกาสที่จะได้ลงทุนในกิจการที่ดีเยี่ยมหลุดลอยไป


12. พัฒนาการลงทุน

เทคนิควิธีการลงทุนที่เคยใช้ได้ผลดีในวันนี้อาจจะใช้ไม่ได้ผลดีในวันข้างหน้าวิธีที่เคยใช้ได้ผลดีในต่างประเทศไม่สามารถ
นำมาใช้ได้ผลดีภายในประเทศธุรกิจที่ดีในวันนี้อาจจะไม่ใช่ธุรกิจที่ดีในเวลาต่อมามีธุรกิจดาวร่วงก็มีธุรกิจดาวรุ่งนักลงทุนที่ดี
ควรยืดหยุ่นที่จะปรับการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมกาลเวลาที่เปลี่ยนไป
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือควร
ตัดสินใจลงทุนโดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ


13. อย่าเสี่ยงเกินตัว การกู้หนี้ยืมสินเพื่อซื้อหุ้น

การทุ่มซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไปแม้อาจจะให้ผลตอบแทนสูงๆติดต่อกันหลายครั้งแต่หากเกิดความผิดพลาดเพียงแค่ครั้ง
เดียวอาจไม่มีโอกาสแม้จะแก้ตัวแม้ความเสี่ยงสามารถลดลงได้ด้วยความรู้แต่เป็นไปไม่ได้ที่นักลงทุนคนหนึ่งๆจะมีขอบเขต
ความรู้ในทุกๆเรื่องนอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้การกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์หรือใน
จำนวนกิจการที่ลงทุนบ้างเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรใส่ใจ


14. การลงทุนระยาวในหุ้น

แน่นอนที่สุดว่าจะต้องผ่านทั้งวันคืนที่ดีวันคืนที่แย่และวันที่แย่สุดๆการรับรู้และเข้าใจเรื่องนี้พร้อมที่จะรับมือกับวันร้ายๆ จะดีกว่าการพยายามที่จะหาจังหวะเข้าออกจากตลาดโดยการทำนายทายทักคาดเดาซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะประมาณความถูกต้อง
หากการลงทุนระยะยาวสร้างความหวาดกลัววิตกว่าสักวันเหตุการณ์แย่ๆอาจจะเกิดขึ้นการมีทัศนคติที่ว่าในระยะยาวการลงทุน
ในหุ้นจะให้ผลตอบแทนสูงสุด จะทำให้นักลงทุนถือหุ้นระยะยาวได้อย่างมั่นคง

No comments: